พ่อแม่ควรใส่ใจ รองเท้าที่เป็นยางแบบนี้ อย่าให้ลูกใส่ตอนขึ้นบันไดเลื่อน หากดึงตัวออกมาไม่ทัน ไม่อยากจะคิด
สวัสดีครับ วันนี้ ทางเว็บไซต์ sara1000update.com มีข่าวสารเตือนภัย และเป็นอุทธาหรณ์ สำหรับพ่อแม่ ที่มีลูก โดยสมาชิกเฟชบุ๊คท่านหนึ่ง ที่ใช้ชื่อว่า Puripat Timpu ได้มีการโพสต์ข้อความและรูปภาพ ลงในเฟชบุ๊คส่วนตัว ถึง กรณีที่พาลูกเดินเที่ยวห้าง แล้วขึ้นบันไดเลื่อนแล้วสวมใส่รองเท้าที่เป็นยางยืดหยุ่น เพราะปเนอันตรายมากต่อการขึ้นบันไดเลื่อน โดยมีทั้งรูปภาพและข้อความ ว่า….
#เตือนภัย
“อย่าให้เด็กๆใส่รองเท้ายางๆแบบในรูปนี้เดินขึ้นบันไดเลื่อน เด็ดขาด เพราะความยืดหยุ่นของยาง มันเข้าร่องแล้วบันไดเลื่อนมันดูดเข้าไปเลย โชคดีที่เราเดินจูงมือลูกไว้ตลอดทำให้ตอนบันไดเลื่อนดูดรองเท้าเข้าไปเราดึงตัวลูกออกทันแล้วก็โชคดีฟรอย์ดชักขาออกทันไม่งั้นคงหนักกว่านี้”
นอกจากนี้ ยังมีสมาชิกเฟชบุ๊คท่านอื่นแสดงความคิดเห็น เป็นความรู้เพิ่มเติม โดยโพสต์ข้อความและรูปภาพว่า….
“ไม่ควรปล่อยให้เด็กที่ยังเล็กเกินไปขึ้นลงบันไดเลื่อนด้วยตนเอง ควรมีผู้ใหญ่คอยดูแลอยู่ข้างๆจับมือเด็กเอาไว้ให้แน่นเพื่อป้องกันเพราะเด็กอาจทรงตัวได้ไม่ดีพอ
จับมือลูกน้อยไว้ตลอดเวลา ขณะอยู่ยืนอยู่บนบันไดเลื่อน ให้ลูกยืนในลักษณะหันหน้าไปทิศทางเดียวกับการเลื่อนของบันไดเลื่อน
ดูความเรียบร้อยของเสื้อผ้าลูก เช่น ชายเสื้อ ชายกางเกง กระโปรง เชือกผูกรองเท้า ว่าไม่มีส่วนไหนที่จะถูกหนีบเข้าไปติดในซี่ฟันบันไดเลื่อน
ระวังไม่ให้เด็กเล่นระหว่างที่ขึ้นบันไดเลื่อน ไม่หันหน้าหันหลัง ไม่พิงบันไดเลื่อน ไม่วิ่งขึ้นวิ่งลงบันไดเลื่อนและใช้บันไดเลื่อนให้ถูกทาง เด็กหลายคนที่พยายามวิ่งทวนการเคลื่อนไหวของบันไดเลื่อนซึ่งอาจทำให้เกิดอันตรายและได้รับบาดเจ็บได้
อย่ายืนขวางทางคนอื่นบนบันไดเลื่อน เมื่อก้าวเท้าลงมาแล้ว รีบเดินออกมาจากบันไดเลื่อนทันที หากยืนขวางอยู่จะทำให้ผู้ใช้คนอื่นเดินลงจากบันไดเลื่อนไม่ได้
เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน เช่น เห็นว่าบันไดเลื่อนกำลังจะหนีบลูก หรือดึงเสื้อผ้า/เชือกรองเท้าลูกเข้าไป ให้กดปุ่มหยุดฉุกเฉิน (ปุ่มสีแดง) ทันที หากไม่สามารถกดเองได้ ควรรีบบอกเจ้าหน้าที่หรือผู้ใช้บันไดเลื่อนให้ช่วยกด”
เป็นยังไงบ้างครับ สำหรับ เรื่องราวที่นำมาบอกกล่าวกันในวันนี้ หวังว่า เรื่องที่ว่ามา คงเป็นอุทธาหรณ์ สำหรับคุณพ่อ คุณแม่ หรือ หลาย ๆ คน ได้ตระหนัก และให้ความสำคัญ เกี่ยวกับ การใส่รองเท้าให้เด็ก ๆ ขอบคุณเฟชบุ๊ค Puripat Timpu ได้มาบอกกล่าวในครั้งนี้ครับ