เราชนะ รอบ 2 ไฟเขียว เตรียมแจกอีก 2.4 ล้านคน ใช้ได้ ถึง สิ้นดือน มิถุนายน

เราชนะ รอบ 2 เตรียมแจกอีก 2.4 ล้านคน

สวัสดีครับ วันนี้ มีข่าวดีสุด ๆ ครับ เกี่ยวกับ โครงการ ช่วยเหลือเยียวยา ประชาชาชนที่กำลังเดือดร้อนเรื่องเงิน  โดย ทาง  โครงการ เราชนะ  ได้มีข่าวดี เรื่องของ  การขยาย เราชนะ รอบใหม่  ที่เตรียมแจกให้ประชาชนได้ใช้จ่ายอีก  จะเป็นอย่างไรนั้น  เรามาอ่านรายละเอียดกันดีกว่าครับ

ครม. ไฟเขียว ต่ออายุโครงการ เราชนะ ใช้ต่อได้อีก 1 เดือน เป็นสิ้นสุดเดือน มิ.ย. 64 หลังเกิดโควิดระบาดระลอกใหม่ พร้อมเพิ่มเงินในโครงการอีก 3,000 ล้าน ขยายกลุ่มเป้าหมาย แจกเพิ่มอีก 2.4 ล้านคน

กระทรวงการคลังเสนอแนวทางให้ความช่วยเหลือและเยียวยาประชาชนจากผลกระทบโควิด-19 ที่เกิดขึ้นระลอกใหม่ในหลายจังหวัด ทำให้ประชาชนบางกลุ่มเดือดร้อนและขาดรายได้ โดยเสนอให้ขยายเวลามาตรการ เราชนะ ออกไปอีก 1 เดือน หรือสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2564 จากเดิมจะสิ้นสุดวันที่ 31 พฤษภาคม 2564 โดยจ่ายตรงให้กลุ่มเป้าหมายที่มีรายได้น้อย เพื่อบรรเทาผลกระทบให้ประชาชนที่ขาดรายได้ และรองรับการใช้สิทธิของผู้ที่ได้รับสิทธิใหม่ ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ที่ไม่มีสมาร์ตโฟนและผู้ป่วยติดเตียง

น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ระบุว่า ขอให้ประชาชนติดตามว่าจะมีมาตรการออกมาดูแลประชาชนเพิ่มเติมในช่วงใด ขณะนี้ยังมีมาตรการเราชนะ ซึ่งยังเหลือเม็ดเงินรอการเบิกจ่ายอีกประมาณ 1 หมื่นล้านบาท

รวมถึงมาตรการ ม.33 เรารักกัน ของกระทรวงแรงงาน ซึ่งยังเบิกจ่ายเงินไม่หมด ยังเพียงพอที่จะดูแลเศรษฐกิจในช่วงเดือนพฤษภาคมนี้ โดยทางกระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการประเมินผลกระทบการแพร่ระบาด COVID-19 รอบใหม่

แต่หากสถานการณ์เปลี่ยนแปลง กระทรวงการคลังก็พร้อมที่จะพิจารณามาตรการต่าง ๆ ออกมาใช้ในช่วงเวลาที่เหมาะสม และยืนยันว่าคลังยังคงเหลืองบประมาณในการดูแลสถานการณ์ได้

ขณะที่ล่าสุด TNN รายงานว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบตามที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลังเสนอให้ขยายเวลาใช้สิทธิ เราชนะ เป็นสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2564 พร้อมกับให้กรมบัญชีกลางอนุมัติเบิกจ่ายเงินให้แก่ผู้ประกอบการร้านค้า บริการ ที่เข้าร่วมโครงการตามที่ได้รับสิทธิ

นอกจากนี้ยังเห็นชอบที่จะมีการขยายกลุ่มเป้าหมายและกรอบวงเงินของโครงการ จากกลุ่มเป้าหมายประมาณ 31.1 ล้านคน กรอบวงเงินไม่เกิน 210,200 ล้านบาท เป็นกลุ่มเป้าหมายจำนวน 33.5 ล้านคน กรอบวงเงินไม่เกิน 213,243 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 3,042 ล้านบาท

ใส่ความเห็น